ดื่มน้ำแค่ไหน...ในหน้าร้อน

เราทุกคนคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าในแต่ละวัน ควรดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อย 8 แก้ว แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่ว่ากันว่าต้องกินให้อิ่มทั้งแม่และลูก จะต้องดื่มน้ำเพิ่มเป็น 2 เท่าด้วยหรือเปล่า และหากไม่ชอบดื่มน้ำจะทำอย่างไรดี แล้วการดื่มน้ำจะช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพครรภ์ที่แข็งแรงได้อย่างไร เรามาดับกระหายคลายร้อนด้วยเรื่องราวน้ำเย็นๆ ให้ชื่นใจกันดีกว่าค่ะ

ดื่มเพื่อลูก 2 เท่าเลยดีไหม?

แม้ว่าคนทั่วไปควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว แต่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำคูณ 2 เพื่อลูกในครรภ์ค่ะ แม้ว่าคุณอาจจะรู้สึกกระหายบ่อยๆ ซึ่งอาจเป็นเพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าว และการที่คุณแม่ปัสสาวะบ่อยครั้ง แต่สิ่งสำคัญที่คุณควรแน่ใจก็คือ การตรวจสอบตัวเองว่าได้ดื่มน้ำเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะลืมให้ความสำคัญ แต่เมื่อคุณกำลังตั้งครรภ์แล้วสิ่งนี้เป็นเรื่องที่จะหลงลืมไม่ได้ ร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณ 5 ลิตร และเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ปริมาณน้ำในร่างกายจะอยู่ที่ประมาณ 6 ลิตรเป็นอย่างน้อย โดยน้ำในร่างกายส่วนใหญ่จะเป็นองค์ประกอบสำคัญของเลือดที่จะนำสารอาหารผ่านหลอดเลือดไปเลี้ยงดูตัวอ่อนในครรภ์และในช่วงไตรมาส สุดท้ายของการตั้งครรภ์ร่างกายของทารกจะถูกห่อหุ้มไปด้วยน้ำคร่ำที่มีปริมาณมากถึง 32 ออนซ์ ซึ่งน้ำคร่ำนี้จะมีการเปลี่ยนใหม่ทุกๆ 3 ชั่วโมง ดังนั้นการตรวจสอบให้มั่นใจว่าคุณดื่มน้ำอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งอาจจมากกว่าหรือน้อยกว่า 8 แก้วก็ได้ โดยหมั่นสังเกตตนเอง หากเริ่มมีอาการปากแห้งต้องกลืนน้ลายบ่อยๆ นั่นอาจหมายความว่าคุณต้องดื่มน้ำสักแก้วแล้วล่ะค่ะ

ขาดน้ำ ระวัง! คลอดก่อนกำหนด

มีการวิจัยที่ค้นพบความเชื่อมโยงกันระหว่างภาวะร่างกายขาดน้ำกับการคลอดก่อนกำหนดค่ะ โดยมีความเชื่อว่าภาวะขาดน้ำ ทำให้ร่างกายปล่อยแอนติไดยูเรติก ฮอร์โมน (Antidiuretic Hormone) ออกมาจากตับ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเสียน้ำมากเกินไป และแอนติไดยูเรติก ฮอร์โมน นี่เองจะไปเพิ่มฮอร์โมนออกซิโทซิน ที่ทำให้เกิดการบีบตัวของมดลูก นำไปสู่การคลอดก่อนกำหนดได้

น้ำผลไม้ นับรวมเป็นน้ำด้วยหรือเปล่า

ของเหลวใดๆ ที่คุณดื่มเข้าสู่ร่างกายสามารถนับรวมเป็นน้ำได้ค่ะ แต่อย่าลืมว่าน้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มอื่นๆ นอกไปจากน้ำเปล่าอาจมีแคลอรีในปริมาณมาก ดังนั้นจึงไม่ควรดื่มมากเกินไป นอกจากนี้ว่าที่คุณแม่ควรจำกัดปริมาณคาเฟอีนในแต่ละวันไม่ให้เกินวันละ 12 มิลลิกรัม หรือประมาณ 1 แก้ว ขนาด 12 ออนซ์ เพราะหากมากไปกว่านี้อาจเพิ่มโอกาสที่จะแท้งบุตรได้

ว่าที่คุณแม่ส่วนใหญ่อาจเผชิญกับอาการบวมตามบริเวณต่างๆ ของร่างกาย เช่น เท้าหรือข้อเท้า ทั้งนี้ เป็นเพราะฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป การที่มดลูกขยายใหญ่ขึ้นจนไปทับเส้นเลือดบริเวณขา ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ผนวกกับแรงดึงดูดของโลกที่ทำให้ของเหลวในร่างกายของคุณแม่ไหลมา รวมกันที่เท้า ซึ่งการดื่มน้ำจะช่วยลดอาการบวมเหล่านี้ได้ค่ะ คุณแม่บางรายคิดว่ายิ่งดื่มน้ำยิ่งทำให้ตัวบวมความจริงแล้วตรงกันข้ามต่างหาก เพราะการดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะทำให้ร่างกายมีน้ำไหลเวียน มากเกินไป ว่าแล้วดื่มน้ำบ่อยๆ ยอมเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้นดีกว่าต้องทนกับอาการบวม..จริงไหมคะ? เอาล่ะค่ะ เมื่อมาถึงบรรทัดนี้แล้วเริ่มกระหายน้ำขึ้นมาบ้างหรือยังคะ ว่าแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบเครื่องดื่มที่หาง่าย ราคาถูก หนำซ้ำยังมีประโยชน์ที่สุดในโลกมาดับกระหายกันดีกว่า

เคล็ดไม่ลับอีกประการสำหรับการดื่มน้ำเพื่อสุขภาพครรภ์ที่ดี คือ คุณแม่ควรจิบน้ำเปล่าอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งวันดีกว่าจะยกซดทีละแก้วใหญ่ๆ เพราะไม่เพียงจะทำให้ร่างกายได้รับมากเกินไปในคราวเดียวซึ่งจะส่งผลต่อระบบต่างๆ ในร่างกายแต่อาจทำให้คุณอิ่ม และเกิดอาการจุกเสียดได้อีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก บันทึกคุณเเม่