ท้องผูก...เมื่อลูกอยู่ในท้อง

โอ๊ย อึดอัดจัง ทำยังไงดี! ท้องก็ใหญ่ขึ้นทุกวัน หนำซ้ำยังมีปัญหาการขับถ่ายแบบนี้ไม่ดีแน่.... ว่าที่คุณแม่หลายคนคงประสบปัญหาท้องผูก ขับถ่ายยาก ถ่ายไม่ออกกันบ้างไม่มากก็น้อยใช่ไหมคะ หนำซ้ำท้องก็ใหญ่ขึ้นทุกวัน จะทำอะไรทีก็ไม่คล่องตัวเหมือนก่อน ไหนจะความรู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวจากอาการท้องผูกอีก...ทำอย่างไรดีล่ะ กังวลจัง...ยังไม่ถ่าย

ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะอาการท้องผูกในขณะตั้งครรภ์เป็นเรื่องปกติที่พบได้ถึง 50% ของหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งอาการนี้อาจเกิดขึ้นในช่วงหนึ่งของการตั้งครรภ์ก็ได้ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะร่างกายหลั่งฮอร์โมนโพรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้กล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกายผ่อนคลาย รวมไปถึงระบบทางเดินอาหารด้วย นั่นหมายความว่าอาหารที่รับประทานเข้าไปจะผ่านเข้าสู่ลำไส้ช้าลง และปัญหานี้อาจเพิ่มมากขึ้นพร้อมๆ กับอายุครรภ์ของคุณแม่เนื่องจากแรงกดดันของมดลูกที่ขยายไปเบียดช่องทวารหนัก รวมทั้งหากคุณแม่กินวิตามินเสริมธาตุเหล็กในปริมาณมากก็อาจยิ่งทำให้อาการท้องผูกแย่ลงได้

 

ทำอย่างไรดีให้ท้องนี้โล่งสบาย

เคล็ดลับต่อไปนี้อาจช่วยทำให้คุณแม่ขับถ่ายได้สะดวกขึ้น หรืออย่างน้อยๆ ก็น่าจะช่วยทำให้อาการท้องผูกพอทุเลาลงได้ค่ะ

  • รับประทานอาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นผักใบเขียว หรือพวกธัญพืชต่างๆ ในมื้อเช้าอาจรับประทานซีเรียลธัญพืช เติมงาดำ หรือข้าวโอ๊ตไม่ขัดสี แล้วดื่มน้ำอุ่นตาม ก็จะช่วยให้ขับถ่ายได้สะดวกขึ้น วิธีนี้อาจไม่เห็นผลในวันแรกๆ แต่หากทำอย่างต่อเนื่องคุณจะเริ่มสังเกตได้ถึงการเปลี่ยนแปลงค่ะ
  • ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยๆ 6-8 แก้วต่อวัน และควรดื่มน้ำผลไม้อย่างน้อยวันละ 1 แก้ว โดยเฉพาะน้ำลูกพรุน ซึ่งช่วยในเรื่องการขับถ่ายได้มาก คุณแม่บางรายใช้วิธีดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วทันทีหลังตื่นนอน ก็ช่วยได้เช่นกัน
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แม้ว่าท้องจะใหญ่ขึ้นทุกวันๆ แต่ก็อย่าให้เป็นอุปสรรคต่อการออกกำลังกายนะคะ คุณอาจจะเลือกการเดิน ว่ายน้ำ หรือโยคะสำหรับแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งการออกกำลังกายไม่เพียงช่วยทำให้ระบบขับถ่ายกลับมาเป็นปกติเท่านั้น แต่ยังทำให้คุณแม่รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าอีกด้วย
  • นั่งให้นาน ไม่ได้หมายถึงนั่งสบายๆ ที่โซฟานะคะ แต่หมายถึงการนั่งในห้องน้ำต่างหาก โดยเฉพาะในช่วงหลังรับประทานอาการ ซึ่งระบบขับถ่ายจะทำงานมากขึ้นในช่วงนี้ คอยสังเกตร่างกายของคุณว่าเริ่มปวดขับถ่ายหรือไม่หากมีอาการนิดหน่อยควรลองใช้เวลานั่งขับถ่ายให้นานขึ้นอีกนิด ไม่แน่ว่าคุณอาจจะถ่ายท้องคล่องสบายกว่าที่เคยก็เป็นได้
  • หากวิตามินเสริมของคุณแม่ มีส่วนประกอบของธาตุเหล็กในปริมาณมาก อาจปรึกษาแพทย์เพื่อลองเปลี่ยนวิตามิน เพราะปริมาณธาตุเหล็กในวิตามิน อาจส่งผลต่ออาการท้องผูกได้
  • หากลองวิธีทั้งหมดที่กล่าวมาแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ โดยแพทย์อาจแนะนำให้รับประทานอาหารเสริมชนิดไฟเบอร์ หรือยาระบาย
 

ท้องผูกอย่างนี้ อันตรายต่อเบบี้หรือเปล่า

อาการท้องผูกในคุณแม่ตั้งครรภ์ โดยทั่วไปไม่ใช่เรื่องร้ายแรง และไม่ส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์ค่ะ แต่ในบางกรณีอาการท้องผูกก็อาจเป็นสัญญาณของอาการแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น หากคุณมีอาการท้องผูกอย่างรุนแรง ปวดท้องมาก หรือท้องผูกสลับท้องเสีย ขับถ่ายเป็นมูก หรือขับถ่ายเป็นเลือด ควรปรึกษาแพทย์ทันที

รวมทั้งการออกแรงเบ่งมากๆ หรือการขับถ่ายที่อุจจาระค่อนข้างแข็ง อาจทำให้คุณแม่มีอาการริดสีดวงทวาร จนทำให้ว่าที่คุณแม่ไม่สบายเนื้อตัวได้ แต่โดยทั่วไปอาการริดสีดวงทวารนี้ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง และมักจะหายได้เองหลังจากคลอดลูก แต่หากริดสีดวงทวารทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บปวดมาก หรือมีเลือดออกควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิฉัย



ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก นิตยสารบันทึกคุณเเม่